ผัวจับได้เมียพา “เจ้านาย” ขึ้นห้อง ไม่โวยวาย แต่ยื่น 2 ข้อเสนอ ฟังแล้วปรบมือ
ผัวจับได้เมียพา “เจ้านาย” ขึ้นห้อง ไม่โวยวาย แต่ยื่น 2 ข้อเสนอ ฟังแล้วปรบมือ
ปัญหาครอบครัวที่ทั่วโลกกลุ้มใจมากที่สุดคือปัญหาการนอกใจคู่รัก และหลายๆ คู่ก็มักจะจับชู้ได้ด้วยตนเอง หลายคนอาจจะเสียใจและปล่อยพวกเขาไป แต่กับหนุ่มเวียดนามคนนี้บอกเลยว่ามีตัวเลือกให้คนที่ไม่ซื่อสัตย์แบบเจ็บแสบกว่านั้น หลังจากที่รู้ว่า ชายชู้ที่เข้าจับได้ว่าแอบแซ่บกับภรรยาตนเองก็คือ เจ้านายของเมียนั่นเอง
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับชายชาวเวียดนามรายหนึ่ง ที่แต่งงานมา 10 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้มักจะต้องเดินทางไปทำงานไกลบ้านเสมอ ทำให้ความสัมพันธ์กับครอบครัวจึงมีอุปสรรคมากมาย ดังนั้น เพื่อให้มีเวลาใกล้ชิดกับภรรยาและลูกมากขึ้น จึงตัดสินใจย้ายไปทำงานใกล้บ้านมากขึ้น หารู้ไม่ว่าสัมพันธ์ของสามีภรรยากลับไม่สงบสุขอย่างที่เขาต้องการ
แม้ว่าเขาจะไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับการเดินทางไปทำงานอีกต่อไป แต่รายได้ก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน เมื่อตอนที่เขาได้รับเงินมากมาย ภรรยาก็ตำหนิที่สามีไม่อยู่บ้าน แต่ตอนที่เขาอยู่ที่บ้าน เธอก็ตำหนิที่หาเงินไม่ได้ อีกทั้งในเวลาต่อมายังพบว่าภรรยามีท่าทีแปลกๆ เธอมักจะทำงานล่วงเวลา และดูแลความงามของตนเองมากขึ้น อีกทั้งยังซื้อเสื้อผ้าราคาแพงๆ ทั้งที่ทำงานเป็นนักบัญชีที่มีรายได้จำกัด
หลังจากเฝ้าสังเกตสักระยะหนึ่ง เขาจึงรู้ว่าภรรยามีความใกล้ชิดกับ “หัวหน้างาน” ของเธอ และชายคนนี้อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งอายุมากกว่าเธอ 6 ปี ที่สำคัญคือ เขาแต่งงานแล้ว เมื่อเขาลองถามเพื่อนร่วมงานของภรรยา 2-3 คน พบว่าที่บริษัททุกคนสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ซึ่งเรื่องราวที่ได้ฟังนี้ทำให้เขายิ่งโกรธมาก
ต่อมาเขาตั้งใจจะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ต่างเมืองอย่างน้อย 3 วัน ในวันที่ต้องเดินทางภรรยายังคอยโทรหาเพื่อยืนยันว่าเขาขึ้นเครื่องบินแล้วหรือไม่ การกระทำนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย จึงตัดสินใจเลื่อนการเดินทางออกไป และย้อนกลับไปที่อพาร์ทเมนต์ที่พวกเขาอาศัยอยู่ หลังจากเฝ้าดูสักพักก็เป็นไปตามที่คิดไว้เลย
เพราะเขาเห็นด้วยตาตนเองว่า หัวหน้าของภรรยามาที่ชั้นล่างของอพาร์ทเมนต์ จากนั้นภรรยาของเขาก็จูงหัวหน้าขึ้นไปที่บ้าน เขารอให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ก่อนจะตามขึ้นไปชั้นบน เมื่อเปิดเข้าไปในห้องนอน ภรรยาที่อยู่บนเตียงกับชายอื่น ทันทีที่เห็นสามีกลับมาก็กรีดร้องเสียงดัง และพยายามซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม
ตรงกันข้ามกับความตื่นตกใจของอีกสองคน ในเวลานี้ฝ่ายสามีกลับมีท่าทีสงบมาก เขานั่งลงและพูดคุยชายอีกคนอย่างใจเย็น โดยบอกว่า “ผมให้สองทางเลือกแก่คุณ หนึ่งคือบอกภรรยาและบริษัทของคุณ ประกาศต่อสาธารณะว่าคุณทำอะไร และทางเลือกที่สองคือให้คุณลาออกจากงานและตัดการติดต่อกับภรรยาของผม”
แน่นอนว่าทันทีที่ฟังจบ หัวหน้าของภรรยาก็เลือกตัวเลือกที่สอง และรีบจากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ภรรยาเผชิญหน้ากับสามี ในเวลานี้เธอเอาแต่ร้องไห้และร้องขอการยกโทษ แต่เขาเพียงขอให้เธอทำความสะอาดสิ่งของและออกจากบ้านไปซะตัดสินใจยุติการแต่งงานครั้งนี้ แม้นี่จะไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาต้องการในชีวิตคู่ แต่เขาก็รับไม่ได้กับการทรยศของภรรยาเช่นกัน
ทั้งนี้ ฝ่ายสามียังบอกด้วยว่า เหตุผลที่ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ไม่ใช่ว่าไม่โกรธ แต่ถ้าลงมือจริงๆ คนที่จะพ่ายแพ้ก็คือตัวเขาเองเพราะความรุนแรงสามารถสนองอารมณ์ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่มันจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างไม่คาดคิด ซึ่งเรื่องนี้หลายคนชื่นชมพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่าเขาฉลาดและกล้าหาญ
ส่วนเรื่องลูก ในเวลาต่อมาศาลก็ตัดสินให้สามีเป็นฝ่ายดูแล เพราะมีหลักฐานว่าภรรยาทำผิดจริง ในเวลาเพียงสั้นๆ หญิงสาวคนนี้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ครอบครัวไปจนถึงเกียรติยศของเธอ และจะต้องเผชิญกับความรู้สึกผิดไปอีกต่อจากนี้ เมื่อเป็นคนทำลายบ้านของเธอด้วยมือของเธอเอง
อย่างไรก็ตาม สำหรับหัวหน้างานของภรรยา หลังจากที่เขาลาออกจากงาน จึงมีข่าวลือเข้าหูภรรยาของเขา ในที่สุดทั้งสองคนก็ยุติการแต่งงานเช่นกัน การจบลงอย่างน่าเศร้าเช่นนี้ถือเป็นบทเรียนสำหรับทุกคน เมื่อตัดสินใจที่จะแต่งงานก็ควรซื่อสัตย์และถนอมคู่ครอง เพราะการนอกใจคู่สมรส ไม่เพียงนำไปสู่การล่มสลายของครอบครัวเท่านั้น แต่ยังทำให้ชื่อเสียงไม่ดีอนาคตอีกด้วย
ข้อมูลจาก soha