News

เฒ่าแค้นแทนเมียพิการ คว้าลูกซองจบชีวิตสาวเจ้าหนี้ดับคาที่ เผยปมเดือด จำนองที่ได้เงิน 3 หมื่น กลับถูกฟ้องเกือบล้าน เจรจายังไงก็ไม่ยอม สุดท้ายถูกไล่ออกจากบ้านของตัวเอง

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน ที่บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 5 ต.มหาสอน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี หลังรับแจ้ง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

 

 

 

 

ที่เกิดเหตุพบมีชาวบ้านมุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก บริเวณจุดเกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตนอนหงาย ศีรษะพาดอยู่บนเสาปูน หลังรถบรรทุก 6 ล้อ โดยมีนายอำพัน ปานกล่ำ อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นมือปืนได้นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับอาวุธปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 มม. และปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วจำนวน 6 ปลอก ตกกระจายเกลื่อนที่เกิดเหตุ

 

 

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบคดี และได้ควบคุมตัวทำการสอบสวนในเบื้องต้น นายอำพัน กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า แค้นมันมานาน พูดเจรจาขอซื้อคืนก็แล้วขอประณีประนอมก็แล้ว อย่างไรมันก็ไม่ยอม อยากได้บ้านได้ที่ดินของภรรยาตนเอง ที่จำนองไว้จำนวน 30,0000 บาท แต่กลับไปฟ้องบังคับคดีให้คืนเงินต้นดอกเกือบล้านบาท

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสาเหตุที่ต้องลงมือยิง ได้รับคำตอบในเบื้องต้นว่า มันกำลังจะมาปักเสา ถมที่ดิน ตัดต้นไม้ และยึดบ้านยึดที่ดินของภรรยาตนไป ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เลยไปนำอาวุธปืนที่ซุกซ่อนไว้ใต้เตียงนอนของภรรยาซึ่งป่วยติดเตียง ลงมากระหน่ำยิง ไม่รู้ว่ายิงไปกี่นัด แต่ยิงไปหมดรังเพลิง ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธปืนพบว่าถูกยิงออกไปจำนวน 6 นัด ยังเหลือค้างรังเพลิงอยู่จำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวม อาวุธพร้อมปลอกกระสุนปืน ไว้เพื่อตรวจสอบและเป็นพยานหลักฐานในคดี พร้อมได้นำตัวนายอำพัน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่เกิดเหตุ

 

 

 

 

ทางด้านนางสมหวัง งามขำ อายุ 63 ปี ผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่า 10 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง พร้อมกับร้องไห้คร่ำครวญถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า สามีของตนเอง มันคงคับแค้นถึงที่สุดแล้วถึงได้ตัดสินใจทำลงไป ตนเองได้นำที่นาไปจำนองไว้กับ นางอุไร แสงทอง อายุ 58 ปี ไว้นานแล้ว พร้อมได้เงินมาจำนวน 30,000 บาท หลังจากนั้นตนเองก็ประสบเคราะห์กรรม เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่า 10 ปี เลยไม่ได้คืนต้นจ่ายดอกเบี้ยกับนางอุไร

 

 

 

 

ซึ่งผู้เสียชีวิตพยายามจะยึดที่นาในครั้งแรก แต่ไม่สามารถยึดได้เนื่องจากเป็นที่ดิน สปก. จึงได้หันเห มายึดบ้านที่ดินจำนวน 2 งานเศษ ที่ตนเองอาศัยอยู่กับครอบครัวในช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยล่าสุดมีหมายบังคับคดีมาถึงตน เป็นจำนวนเงินถึง 800,000 บาทเศษ โดยไม่รู้เหตุผลเลยว่าทำไม มันถึงได้มากมายขนาดนี้ จึงได้พยายามให้ผู้เสียชีวิตมาเจรจา ขอไถ่ถอนจำนองโดยธรรม อย่าได้คิดดอกเบี้ยมากจนตนเองรับไม่ไหว เพราะเป็นคนพิการไม่มีรายได้ แต่จะพยายามให้สามีและลูกนำเงินมาชดใช้ แต่การเจรจาไม่เป็นผล จนถูกขับไล่ออกจากบ้าน แต่ทางคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่มีความเมตตา สงสาร สร้างบ้านผู้ป่วยติดเตียงให้ และเพิ่งรับมอบเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา

เมื่อช่วงบ่าย ตนเองแอบมองนางอุไร ผู้เสียชีวิต พร้อมคนงาน ที่ได้เดินทางมาเพื่อล้อมรั้ว ปักเขตยึดเอาที่บ้าน และที่ดินของตน โดยไม่ทราบว่าตนเองก็มองที่ดินและบ้านของตนเองด้วยความเสียดาย ร้องให้ด้วยความเศร้าใจ ไม่รู้จะพึ่งใคร มองดูเขายึดบ้านที่ดินไป และไม่ทันได้คาดคิดว่า สามีของตนได้ซ่อนอาวุธปืนไว้ใต้เตียง จู่ ๆ สามีได้คว้าปืน ออกไปกระหน่ำยิงนางอุไร จนเสียชีวิตคาที่ดินดังกล่าว โดยไม่หลบหนี ขอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมกับมาขอลาตนเองเพื่อชดใช้กรรมที่ก่อ

 

 

 

 

ด้านนายยงยุทธ ษรจันศรี อายุ 31 ลูกชายของนางสมหวัง กล่าวว่า ลุง (มือปืน) เป็นสามีใหม่ของแม่ ซึ่งอยู่กันมากว่า 10 ปี เป็นคนดีรักครอบครัว ซึ่งประเด็นสาเหตุนั้น ตนได้ยินเสียงกล่าวก่อนเกิดเหตุว่า มันจะเอาที่เราไปไม่ได้ โดยไม่คิดว่าลุงจะกล้ามาก่อเหตุเช่นนี้ ซึ่งคิดว่าแกคงสะสมบ่มความแค้นถึงที่สุด ที่ต้องถูกยึดบ้านไปโดยไม่ชอบธรรม เบื้องต้น ได้ควบคุมตัวนายอำพัน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่เพื่อดำเนินคดี ส่วนผู้เสียชีวิต ได้นำส่งพิสูจน์ที่ รพ.อีกครั้ง

 

 

 

 

ผู้สื่อข่าวจังหวัดลพบุรี รายงาน

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *