นครปฐมระทึก ไฟไหม้รถบรรทุกกาวน้ำ เจ้าหน้าที่เร่งดับไฟก่อนเกิดเพลิงไหม้บานปลาย
นครปฐมระทึกระทึก ไฟไหม้รถบรรทุกกาวน้ำ เจ้าหน้าที่เร่งดับไฟก่อนเกิดเพลิงไหม้บานปลาย ระทึกกลางดึกรถบรรทุกพ่วงจอดริมถนนหลังรู้สึกล้อหลังมีอาการหนืดเป็นอีกทีมีไฟลุกท่วมหลังรถเร่งนำเครื่องดับเพลิงฉีดสกัดแต่ไม่ทันโชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้ามาช่วยดับเพลิงในเวลาเพียง 10 นาทีไม่เช่นนั้นอาจเสียให้หนักเพราะมีบ้านเรือนและโรงพยาบาลเอกชนอยู่ในบริเวณดังกล่าว วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 21.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุ สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเกิดเพลิงลุกไหม้รถบรรทุก 22 ล้อ เหตุเกิดที่บริเวณถนนเพชรเกษม ขาเข้า ราชบุรี ต.ลำพยา อ.เมืองนครปฐมหลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนครปฐม
เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เมื่อไปถึงพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ isuzu ตัวแม่ หมายเลขทะเบียน 70-2602 ตาก ตัวพ่วง หมายเลขทะเบียน 70-4684 ตาก เพลิงกำลังลุกไหม้ที่บริเวณท้ายรถของตัวพ่วงอย่างรุนแรง ควันสีดำโขมงลอยสู่ท้องฟ้าทั่วบริเวณและส่งกลิ่นเหม็นไหม้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรเพื่อป้องกันอันตรายจากผู้ใช้รถใช้ถนน เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนครปฐมเร่งระดมฉีดน้ำดับเพลิงโดยใช้เวลาเพียง 10 นาที จึงสามารถดับไฟได้สนิท
จากการสอบถามนายสุขพัฒน์ วงศ์ดี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่7 ต.หนองจิก อ.บอระบือ จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ตนเองขับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ บรรทุกกาวน้ำมาจากจังหวัดระยอง เพื่อมุ่งหน้าไปส่งที่ อ.ท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี สำหรับกาวน้ำที่บรรทุกมานี้มีน้ำหนักกว่า 30 ตัน ขณะที่ขับมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น ตนเองเบรครถ มีความรู้สึกคล้ายกับยางหนืดติดถนน เนื่องจากยางระเบิด จึงบอกเพื่อนร่วมคนขับด้วยกันว่าให้จอดรถดีกว่า เมื่อลงมาพบว่ามีประกายไฟกำลังลุกไหม้อยู่ที่ท้ายรถ จึงช่วยกันยกถังดับเพลิงฉีดแต่ไม่สามารถดับได้
เนื่องจากไฟเกิดลุกไหม้อย่างหนัก ไฟลุกโชนอย่างแรงและรวดเร็วมาก จึงรีบโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานรถดับเพลิง มาช่วยกันดับไฟ นอกจากนี้คนขับรถยังเผยอีกว่า ตนถือว่าโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ และลงจากรถได้ทันโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และโชคดีที่เจ้าหน้าที่เร่งดับไฟได้ทันไม่เช่นนั้นหากเหตุการณ์ยุ่งยากกว่าคือไฟลุกลามหรือมีการระเบิดอาจสูญเสียไม่น้อยเพราะมีบ้านเรือนและโรงพยาบาลเอกชนอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนครปฐม