จับแล้ว แม่บ้านแสบ ขโมยทรัพย์สิน บลู เอลิกา อดีตนักแสดงดัง นับล้าน

จับแล้ว แม่บ้านแสบ ขโมยทรัพย์สิน บลู เอลิกา อดีตนักแสดงดัง นับล้าน

รวบคาหอพัก แม่บ้านแสบ คนสนิท บลู เอลิกา อดีตนักแสดงดัง แอบขโมยทรัพย์สินนับล้านบ้าน ก่อนขนของหนีหาย เปิดปากสารภาพ เผยปมก่อเหตุ

วันที่ 14 ก.ย.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1ฯ นำชุดปฏิบัติการที่ 4 เข้าทำการจับกุมตัว น.ส.บัว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี

บุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3991/2567 ลงวันที่ 26 ส.ค. 2567 ข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยุ่ในความครอบครองของนายจ้าง” พร้อมตรวจยึดของกลาง แหวนทองคำหัวพลอย 2 วง สร้อยคอสีเงิน จี้รูปไม้กางเขนสีเงิน 1 เส้น

โดยจับกุมได้บริเวณหน้าห้องพักของหอพักแห่งหนึ่ง ถนนประชาทร แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจาก นายธัญร์นากร สามีอดีตดาราดัง บลู เอลิกา เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ไท สว่างจิต รองสารวัตร(สอบสวน) สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีกับแม่บ้าน ในข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเวลากลางคืน เหตุเกิดในบ้านพักย่านรามคำแหง กรุงเทพฯ

บลู เอลิกา กล่าวว่า รู้จักกับแม่บ้านมาเป็นเวลานานนับ 10 ปี ซึ่งมาขอความช่วยเหลืออยู่ตลอด ด้วยความเห็นใจที่ลูกยังเล็กและมีลูกถึง 3 คน จึงได้ให้ความช่วยเหลือหางานให้ทำ คือจ้างเป็นแม่บ้านมาคอยทำความสะอาดแบบเช้า-เย็นกลับ

บลู เอลิกา กล่าวต่อว่า และเมื่อวันที่ 17 ส.ค.67 สามีได้ตรวจทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน แล้วพบว่า แหวน, สร้อยข้อมือ, สร้อยพร้อมจี้ ได้หายจากที่เก็บของทั้งหมด ซึ่งคิดว่าเป็นแม่บ้านขโมยไป เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเหตุให้สงสัย เนื่องจากเมื่อปลายปี 2566 พบว่าเงินหายไปจำนวนหลายพันบาทจากห้องนอน

บลู เอลิกา กล่าวอีกว่า แม้กระทั่งสายชาร์จไอโฟนของแท้ก็หาย และแม่บ้านได้แจ้งว่า จะซื้อมาคืน แต่ก็ไม่ได้ซื้อมาคืน และลักลอบถอดสายกล้องวงจรปิดอยู่เสมอ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นแม่บ้านทำความสะอาดบ้านของผู้เสียหาย

ต่อมาวันที่ 18 ส.ค.67 แม่บ้านได้เดินทางมาทำงานที่บ้าน ก็ได้พูดคุยกันปกติ สามีกำลังออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน แต่ลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนห้อง จึงได้กลับเข้าบ้านและขึ้นไปบนห้อง พบว่าแม่บ้านกำลังรื้อค้นทรัพย์สินที่บริเวณหัวเตียงเพื่อที่จะขโมยทรัพย์สินเพิ่ม

จึงได้พูดตรง ๆ กับแม่บ้านว่า “ให้กลับตัวกลับใจใหม่ เอาของเก่าที่ได้ขโมยไปเอามาคืน” จากนั้นก็ออกจากบ้านไปเพื่อให้โอกาส แต่ทราบต่อมาว่าเมื่อแม่บ้านกลับบ้านของตนที่ย่านอ่อนนุช ก็ได้ขนของหนีออกจากที่พัก และไม่สามารถติดต่อได้อีก

ด้าน ผู้เสียหายได้ตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปอีกครั้ง เบื้องต้นพบทรัพย์สินที่หายไป จำนวน 4 รายการดังนี้ 1.แหวนทองหัวพลอย 2 วง มูลค่า 300,000 บาท 2.แหวนทองคำขาว 4 วง มูลค่า 680,000 บาท 3.กำไรฝังเพชร 1 วง มูลค่า 65,000 บาท และ 4.พลอดเม็ดสีแดง 1 วง มูลค่า 120,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 1,165,000 บาท

จึงได้เดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในบ้านไปจริง สาเหตุที่ทำไปเพราะมีปัญหาหนี้สินและเป็นหนี้นอกระบบ ส่วนทรัพย์สินที่เอาไปดังกล่าว ตนได้นำทรัพย์สินไปจำนำกับโรงรับจำนำและคนรู้จัก แต่ยังมีเหลืออยู่ที่ตนคือ แหวนทอง 2 วง และ สร้อยคอรูปกางเขน 1 เส้น

จากนั้นได้นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป